วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

Edge of tomorrow เกิด ดับ วนเวียนไม่มีจบ





ใครได้ดูหนังเรื่อง Edge of tomorrow บ้างครับ ผมว่าเรื่องนี้สนุกทีเดียวแต่ว่าก็ไม่ได้สนุกขนาดที่ว่าประทับใจทุกช็อตนะครับ หนังเรื่องนี้ได้เอาเค้าโครงเรื่องมาจากนิยายของญี่ปุ่นครับ แล้วมาปรับเปลี่ยนโครงเรื่องให้เหมาะกับการทำเป็นหนังฮอลลีวู้ด เพราะถ้าทำแบบญี่ปุ่นจะไปแบบเงียบเชียบแน่ๆ 

หนังเรื่องนี้มีดาราชูโรงคือ ทอม ครูซ (Tom Cruise) และเอมิลี บลันต์ (Emily Blunt)นับว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกจับตามองอย่างมาก แม้ว่าเนื้อหาจะผิดเพี้ยนไปจากนวนิยายต้นฉบับบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทำให้ความสนุกลดลงแต่อย่างใด และ Edge of Tomorrow ยังได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ ทอม ครูซ และผู้กำกับดัก ไลแมน (Doug Liman) 

ซึ่งแน่นอนว่าบทวิจารณ์ด้านบนนั้นก็ไม่ได้เหนือจากจริงเพราะหนังทำออกมาได้ดีครับ บทหนังทำได้ดี ตัดต่อเรื่องราวให้เข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อนเกิน เพราะหนังเป็นการย้อนไปย้อนมาวนไปวนมาของประการณ์หลังตายแล้วต้องมาอยู่จุดเดิมเพื่อทำภาระกิจเดิมๆ ให้สำเร็จ จะเห็นว่าเรื่องอาจไม่เร้าใจ แต่พอได้เข้าไปดูแล้วก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันน่าดูนะนี่ เพราะเรื่องราวไม่ได้เวอร์เกินไป(ก็หนัง sci-fi)นัก หนังเดินเรื่องไประหว่าง ทอม ครูซ และ เอมิลี บลันต์ ไปมาๆ ก็ทำให้รู้สึกสนุกกับบทสนทนาของทั้งสอง 

หนังแสดงออกถึงภารกิจที่ต้องทำแม้ว่าจะยากลำบากอย่างไรก็ต้องทำและบรรลุเป้าหมายให้ได้ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทุกหนทุกทางในญี่ปุ่น ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่หนังให้หลักปรัชญากับคนดูครับ มาดูการแสดงของทอมครูซ กับ เอมิลี เรียกว่าเข้ากันได้อย่างดี ในส่วนตัวผมคิดว่าสองคนนี้เล่นได้เข้าขากันดี และองค์ประกอบของหนังการทำโปรดักส์ชั่นเรียกว่าดีกว่าที่ตั้งความหวังไว้ สมจริงสมจังดีครับ การแสดงของทั้งสองคนไม่ได้โอเวอร์แอ็คติ้งเกินไป และบทหนังยังได้แสดงออกถึงการพัฒนาของตัวละครเมื่อเวลาผ่านไป นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าหนังได้เดินไปในทางที่โอเคเลยทีเดียว

ในหนังเรื่องนี้ต้องยกความดีให้กับนักแสดงร่วมด้วยครับ เพราะแสดงกันได้ไม่ขาดไม่เกินทำให้หนังเดินเรื่องได้แจ่มมากๆ ต้องบอกว่าหาดูหนังแบบนี้ได้น้อยนะครับ หนัง action sci-fi ก็ทำออกมาบางทีก็แป็ก บางทีก็ขาดๆ เกินๆ ซึ่งก็ขึ้นว่าผู้ชมจะชอบไหม ส่วนตัวผมชอบดีครับ จริงๆ หนังแนวนี้เป็นหนังที่ขายยากมากในการที่จะเป็นหนังทำเงิน ส่วนมากจะเป็นหนังที่ได้แค่กล่องอย่างเดียว หนังแนวเดียวกันที่คล้ายๆ กันจะเป็นเรื่อง Dark City เป็นอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีแต่เรื่องรายได้จะไม่เท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่คล้ายกันแต่อาจจะคนละแนวคือ Inception หนังเรื่องนี้ทำออกมาดีแล้วได้ทั้งเงินทั้งกล่องเลยเรียกว่าได้ประสบความสำเร็จมากมาย 



ไม่มีความคิดเห็น: