วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

Green Zone : โคตรคนระห่ำ ฝ่าโซนเดือด




Green Zone : โคตรคนระห่ำ ฝ่าโซนเดือด
กำหนดฉาย : 11 มีนาคม 2553
แนว : Drama Thriller
นำแสดง : แม็ตต์ เดม่อน (Matt Damon ), เกร็ก คินเนียร์ (Greg Kinnear), เอมี่ ไรอัน (Amy Ryan), เบรนแดน กลีสัน (Brendan Gleeson), เจสัน ไอแซ็คส์ (Jason Isaacs), กาลิด อับดัลล่า (Khalid Abdalla)
กำกับ : พอล กรีนกราส (Paul Greengrass)

ตอนแรกผมได้ยินชื่อผมก็คิดในใจว่า เอ...แม็ตต์ เดม่อน กับหนังใหม่ทำไมมันชื่อแต๋วจังหว่า แต่ว่าเมื่อมองที่ทีมงานที่ทำเรื่องนี้ ต้องร้องบอกว่าโอ๊ๆๆๆ แม่เจ้านี่มันนอมินีของ The BOURNE ทั้งหลายแหล่ที่แกแสดงนี่หว่า แถมผู้กำกับก็คนเดิมนายพอล กรีนกราส คนเดิมที่กำกับหนังแบบดิบๆ ได้ใจจริงๆ จะบอกว่าแกกำกับแบบไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทนให้เปลืองตังค์ แกเน้นแสดงจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้แสตนด์อิน อันนี้แซวเล่นครับ เอ้ามาว่ากันต่อครับจริงๆ จะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่ได้ไปดูแล้วล่ะครับแต่ว่าผมก็มัวทำโน้นทำนี่เยอะไปหมดก็เลยลืมๆ ไปจนกระทั่งวันนี้แหล่ะว่างแล้ว (ว่างแล้วจริงๆ นะนี่) หนังเรื่องนี้จะว่าไปตอนแรกที่ผมเดินเข้าไปแล้วเริ่มต้นเรื่องเห็นปีที่หนังเริ่มเรื่องผมก็แปลกใจว่ามันหนังย้อนยุคหรือไงนี่ จริงๆ ผมไม่ได้อ่านเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ก่อนเลย ที่ตัดสินใจดูก็เพราะว่าอยากหาดูหนังที่แตกต่างออกไปเพราะผมมันเป็นคนไม่ชอบความจำเจ เพราะฉะนั้นหนัง Green Zone ก็เลยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้น แล้วผมคิดว่าหนังเป็นสงครามแอ็คชั่นน่าจะสนุกทีเดียว แล้วผมก็ไม่ผิดหวังกับตัวเลือก หนังสร้างได้คุณภาพมาก ฉาก เนื้อเรื่อง การตัดต่อ บทหนัง ดีครับ ผมว่าผมชอบนะ จะว่าไปแล้วหากคนที่ไม่เคยดูไสตล์ของ พอล กรีนกราส กับ แม็ตต์ เดม่อน แล้วอาจจะไม่ชอบก็ได้ หนังมันเดินเรื่องเร็วแล้วภาพจะออกมาแบบดิบๆ ไม่แต่งเติมซักเท่าไหร่ แบบว่าได้อารมณ์ดีแท้

Green Zone เรื่องนี้ผมว่ามีอะไรให้ต้องคิดต้องติดตามหลายๆ อย่างเลย หนังมุ่งเน้นที่สงครามที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนจัดระเบียบสังคมประเทศอิรักที่ใครๆ ก็ไม่รัก การปฎิบัติการค้นหาความจริงที่แสนเจ็บปวดในการกระทำเพื่อประเทศ การหักหลังกันเองเพื่อไปสู่จุดที่ตั้งไว้ ผมว่าหนังเรื่องนี้ตบหน้าเหตุผลของการทำสงครามของประเทศบางประเทศเลยครับ เหตุผลที่อ้างไปเพื่อที่จะได้เข้าไปจัดระเบียบประเทศนั้นๆ มันหน่อมแน้มไปนิดแต่ก็ทำไรไม่ได้เพราะว่าการมีกำลังที่เหนือกว่าก็เป็นสิ่งที่ถือไพ่เหนือกว่า ก็ขำดีครับกับเหตุผลแบบนี้ พอดูหนังแล้วหันมาดูบ้านเราแล้วก็อดเศร้าไม่ได้ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ประเทศไทยเราต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ต้องบอกว่าไม่อยากให้เกิดกับบ้านเมืองเรา ผมก็ได้แต่ภาวนาให้บ้านเราสงบโดยเร็ววันไม่งั้นผมว่าเหตุการณ์มันต้องลากยาวแน่ๆ ไม่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่สมหวังแต่คนที่เจ็บปวดก็คือประเทศไทยเราครับ บ่นไปเดี๋ยวจะหาว่าเป็นพวกคอการเมืองไปอีก แต่สรุปว่าหนังเรื่อง Green Zone เป็นหนังเยี่ยมในตัว แม้ว่าบางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับผมๆ ก็ว่ามันดีนะได้ดูแอ็คชั่นเจ็บๆ ได้เห็นเหตุผลที่ไม่เข้าท่าที่ประเทศใหญ่ๆ ชอบอ้างเหตุผลในการทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ที่ชอบคือความซื่อสัตย์ในความจริงที่เป็นอยู่ของใครบางคนแม้ว่าความจริงนั้นจะเจ็บปวดก็ตาม และได้เห็นสิ่งที่คนในประเทศนั้นๆ คิดต่อประเทศตัวเอง ความรักที่มีต่อประเทศบ้านเกิด แหมว่าไปนั่นต้องบอกว่าให้ไปดูกันครับ หนังดี ไม่เสียดายตังค์แน่ๆ ( ผมใช้บัตรฟรีอีกแล้วครับ)

ไม่มีความคิดเห็น: